น้ำผึ้งดิบคืออะไร

น้ำผึ้งดิบคืออะไร

"6 ประโยชน์ของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งดิบคืออะไร และข้อควรระวัง " 

ของหวานสีทองข้นหนืดที่อาจเป็นของโปรดของใครหลายคน แต่อันที่จริงน้ำผึ้งคืออะไร ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีอะไรบ้าง มีข้อควรระวังในการกินน้ำผึ้งรึเปล่า เรารวมข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือจากในและต่างประเทศมาฝากกันค่ะ  
น้ำผึ้งดิบ (Raw Honey) คืออะไร 
น้ำผึ้งดิบ คือน้ำผึ้งที่ไม่ผ่านขบวนการดูดความชื้นด้วยความร้อน ทำให้มีสารอาหารครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าน้ำผึ้งทั่วไป
            จากการศึกษาพบว่า น้ำผึ้งดิบ (Raw Honey) อาจมีกรดอมิโนถึง 22 ชนิด แร่ธาตุและวิตามินอื่นๆ อีกถึง 31 ชนิด รวมถึงสารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าน้ำผึ้งทั่วไปถึง 4.3 เท่า และอันที่จริง น้ำผึ้งก็ให้พลังงานมากกว่าน้ำตาล
            ส่วนน้ำผึ้งตามท้องตลาดต้องผ่านความร้อนและการกรองอย่างละเอียด เพื่อให้ใสน่ากินและเก็บไว้ได้นาน แต่ก็ทำให้ยีสต์ เกสรดอกไม้ เอนไซม์ และสารต้านอนุมูลอิสระโดนทำลายไปด้วย
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
* น้ำผึ้งแท้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก รวมทั้งอาจมีส่วนช่วยลดความเสียงของโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด
* เป็นสารให้ความหวานที่เป็นมิตรกับคนเป็นโรคเบาหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไป การศึกษาพบว่ามันเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าน้ำตาลชนิดอื่น – แต่ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน เราแนะนำให้คุณกินอย่างระมัดระวังครับ
* น้ำผึ้งช่วยรักษาแผลไฟไหม้และแผลสดได้เทียบเท่าหรือดีกว่าการรักษาแผนปัจจุบัน เพราะช่วยลดอาการติดเชื้อ ช่วยสมานแผล กระตุ้นการเติบโตของเนื้อเยื่อ และลดการก่อตัวของแผลเป็น
* การจิบน้ำผึ้งเล็กน้อยก่อนนอนช่วยลดอาการไอในเด็กที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปได้อย่างดี แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำผึ้งในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
* น้ำผึ้งช่วยให้ร่างกายดูดซึมโพแทสเซียมและน้ำได้ดีขึ้น จึงช่วยบรรเทาอาหารท้องเสีย
* การใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลอาจช่วยลดไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดีในกระแสเลือด (HDL) และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides)
ข้อควรระวังในการบริโภคน้ำผึ้ง
- เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ไม่ควรรับประทานน้ำผึ้ง เพราะมีความเสี่ยงต่อโรคโบทูลิซึม (Botulism) ซึ่งเกิดจากแบคที่เรียที่อาจปนเปื้อนในน้ำผึ้ง แต่โรคนี้มีโอกาสเกิดต่ำมากในเด็กโตและผู้ใหญ่
- หญิงตั้งครรภ์สามารถรับประทานน้ำผึ้งในปริมาณปกติได้อย่างปลอดภัย แต่ยังไม่มีข้อมูลรองรับเรื่องการบริโภคที่มากกว่าปกติเพื่อการแพทย์ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้น้ำผึ้งเพื่อรักษาโรคในระหว่างตั้งครรภ์
- ถ้าคุณแพ้เกสรดอกไม้ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำผึ้ง
- น้ำผึ้งอาจมีฤทธิ์ต้านการเกิดลิ่มเลือด ถ้ารับประทานกับ แอสไพริน (Aspirin) โคลพิโดเกรล (Clopidogrel) และยาต้านการอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อาจทำให้เสี่ยงต่อการมีเลือดออกมากขึ้น
- ยาเฟนิโทอิน (Phenytoin) อาจถูกดูดซึมได้มากขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับน้ำผึ้ง ดังนั้นอาจต้องระวังผลข้างเคียงถ้าคุณใช้ยานี้ 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : https://www.bearducktravel.com/benefits-of-honey/
 4850
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์