เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับงาดำ
- งาดำ เป็นธัญพืชที่มีกลิ่นหอม อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินอี แคลเซียม ธาตุเหล็ก หรือสังกะสี
- การรับประทานงานดำเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงหัวใจ สายตา กระดูก และผิวพรรณ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ และแก้เคล็ดขัดยอกอีกด้วย
- แนะนำให้รับประทานงาดำสดที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะความร้อนทำให้คุณค่างาดำลดลง โดยต้องเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
- ปริมาณที่แนะนำต่อวัน ผู้สูงอายุวันละ 10 ช้อน คนวัยทำงานวันละ 3-4 ช้อน
- ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง

ทำความรู้จักกับงาดำ
งาดำเป็นธัญพืชขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยังอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ ทวีปอเมริกา และเอเชียใต้ ลักษณะของต้นงา มีลำต้นเป็นเหลี่ยม มีขนอ่อนปกคลุมอยู่ทั่วไป ลำต้นสูงประมาณ 30-100 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือรูปหอก กว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับตรงข้ามกัน ดอกมีลักษณะเป็นหลอด ออกเป็นดอกเดี่ยวบริเวณซอกใบตอนบนของลำต้นโดยรอบ มีกลีบดอกเป็นสีขาวหรือสีชมพู ลักษณะของผลจะแยกออกเป็น 4 พู เมื่อผลแห้งจะมีเมล็ดรูปไข่ แบน สีดำ ขนาดเล็กมากมาย แต่ละฝักมีเมล็ด 80-100 เมล็ด
คุณค่าทางโภชนาการของงาดำ
งาดำปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 573 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 17.73 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
- เส้นใยอาหาร 11.8 กรัม
- ไขมันรวม 49.67 กรัม แบ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม และกรดไขมันจำเป็นอื่นๆ
- มีวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินอี แคลเซียม ธาตุเหล็ก หรือซีลีเนียม
ประโยชน์ของงาดำ
งาดำเป็นเมล็ดธัญพืช ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด จึงอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ดังนี้
- ช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ ธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดจากโรครูมาตอยด์ และยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง
- ช่วยบำรุงสายตา ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่า ดวงตาสัมพันธ์กับตับ ถ้าตับมีปัญหาจะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัด ในแพทย์แผนจีนจึงใช้งาดำเพื่อบำรุงสายตา และตับไปพร้อมๆ กัน
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ และกระดูก งาดำอุดมไปด้วยแคลเซียม และสังกะสี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกเปราะ กระดูกพรุน ต้านทานอาการข้ออักเสบ โรคข้อเสื่อม และยังมีวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น
- ช่วยบำรุงหัวใจ งาดำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เมล็ดงาดำอัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ และยังมีเซซามีน ช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับ ทำให้ตับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ร่างกายไม่มีสารพิษสะสมก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
- แก้เคล็ดขัดยอก ตามตำรายาไทยจะใช้น้ำมันที่บีบจากเมล็ดงา หุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผล และผสมเป็นน้ำมันทาถูนวดแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดบวม ลดการอักเสบ
สรรพคุณของงาดำต่อการชะลอวัย
งาดำมีสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย มีสรรพคุณช่วยชะลอวัย รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวสดใสอยู่เสมอ
- งาดำมีสารอาหารที่ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ทำให้ผิวไม่เหี่ยวแห้ง
- ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดำเงางาม แข็งแรง ป้องกันการเกิดผมหงอก
- ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
- งาดำช่วยป้องกันเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยขยายหลอดเลือด
- ช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันลิ่มเลือด
- งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
- ช่วยลดความเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง
- งาดำมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยบำรุงเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ร่างกายจึงแข็งแรงต่อเชื้อโรค
- ป้องกันโรคหวัด โรคเหน็บชา ตะคริว
- งาดำช่วยให้หลับง่ายขึ้น
ไอเดียการใช้งาดำเพื่อสุขภาพและความงาม
นอกจากนำมารับประทานแล้ว งาดำก็สามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนี้
- ผิวขาวสวยด้วยงาดำ นำงาดำประมาณ 2 ช้อนชามาบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำก่อนนอนจะมีผิวที่ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างแน่นอน
- งาดำขัดผิวสวย นำงาดำมาผสมกับน้ำผึ้ง โยเกิร์ต แล้วนำมาขัดผิว ทิ้งไว้สักพัก ล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยให้ผิวสวยเนียนนุ่ม ทั้งยังแก้ปัญหาผิวแห้งเสีย หยาบกร้านได้เป็นอย่างดี